Hot Dip Galvanized Pipe
กระบวรการชุบท่อ ด้วยซิงค์กัลวาไนซ์
ท่อร้อยสายไฟ ผลิตด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย โดยใช้เทคโนโลยีล่าสุด Solid State Welders จึงมีความทนทาน แข็งแรง ดัดโค้งได้ เมื่อท่อผ่านการเคลือบสังกะสีกระบวนการ Galvanized พื้นผิวท่อเหล็กผิวจึงสามารถป้องกันสนิม ทนต่อการกัดกร่อนได้ดี และร้อยสายไฟได้ลื่นและง่าย
ทั้งนี้กระบวรการเคลือบผิวเหล็กในประเทศไทยเพื่อความทนทาน และป้องกันสนิม โรงงานจะมีกระบวรการเคลือบผิวอยู่ 2 ลักษณะที่ใช้กันโดยทั่วไปในประเทศไทยคือ 1 เคลือบผิวด้วยวิธีการทางไฟฟ้า (ชุบขาว) 2 เคลือบผิวด้วยวิธีการชุบหรือจุ่มร้อนลงในบ่อZincโดยตรง จะเคลือบด้านในและนอก โดยทั้ง2แบบนี้จะเรียกว่า Hot dip galvanized แม้จะต่างวิธีการ จนทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจผิด
ความแตกต่างของทั้ง2กรรมวิธีคือ ความหนาของZinc coating ที่แตกต่างกัน โดย วิธีทางไฟฟ้าจะบางกว่า อยู่ที่ประมาณ 5-10 ไมครอน วิธีชุบ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคุณสมบัติ ความทนทานของท่อที่แตกต่างกัน โดยบางแบรนด์จะเคลือบด้านนอกด้านเดียว ส่วนด้านในใช้เคลือบอีพ๊อกซี่ เรซินแทน เช่น แบรนด์ PANASONIC
จึงทำให้ท่อที่ใช้วิธีการชุบจริง ซึ่งมีชั้นความหนาของ Zinc ที่ 65-300 ไมครอน ราคาที่สูงกว่าซึ่งปัจจุบันมีเพียง ไม่กี่แบรนด์ที่ยังใช้วิธีนี้ คือ แบรนด์ RSI Arrowและ TASA ซึ่งเหมาะสมกับการใช้งานภายนอกอาคาร สนามบิน โรงไฟฟ้า อาคารสูงขนาดใหญ่ เป็นต้น
Bending EMT pipe
การดัดท่อ EMT ด้วยอุปกรณ์จับดัด
1. ท่อ EMT (Electrical Metallic Tubing) ท่อเหล็กชนิดบาง ผ่านกระบวนการชุบ Hot-Dip Galvanized ติดตั้งใช้งานร้อยสายไฟสำหรับการเดินลอยหรือซ่อนในฝ้าเพดาน ซึ่งการติดตั้งใช้งานให้เป็นไปตามกำหนดใน วสท.
ทำจากแผ่นเหล็กกล้าชนิดรีดร้อน รีดเย็น หรือแผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสี ผิวท่อเรียบทั้งภายใน และภายนอกท่อ และมีความมันวาว ปลายท่อเรียบทั้ง 2 ด้านไม่สามารถทำเกลียวได้ มาตรฐานกำหนดให้ใช้ตัวอักษรสีเขียวระบุ ชนิด และขนาดของท่อ เรียกกันทั่วไปว่าท่อ EMT ปัจจุบันมีขนาดตั้งแต่ 1/2″ – 2″ และยาวท่อนละ10 ฟุตหรือ ประมาณ 3 เมตร
ท่อ EMT ใช้เดินลอยในอาคาร อากาศ หรือฝังในผนังคอนกรีตได้ แต่ห้ามฝังดิน หรือฝังในพื้นคอนกรีต ในสถานที่อันตราย ระบบแรงสูง หรือบริเวณ ที่อาจเกิดความเสียหายทางกายภาพ การดัดท่อชนิดนี้ใช้ bender ที่มีขนาดเท่ากับขนาดท่อ
2. ท่อ IMC – Intermediate Conduit ท่อเหล็ก ชนิดหนาปานกลาง ผ่านกระบวนการชุบ Hot-Dip Galvanized ติดตั้งใช้งานได้เช่นเดียว กับท่อโลหะชนิดบาง และติดตั้งฝังในคอนกรีตได้ แต่ห้ามใช้ในสถานที่อันตราย ตามกำหนดใน วสท.
ทำจากแผ่นเหล็กกล้าชนิดรีดร้อน รีดเย็น หรือแผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสี ผิวท่อเรียบทั้งภายใน และ ภายนอกท่อ มันวาว มีความหนากว่าท่อ EMT ปลายท่อทำเกลียวไว้ทั้ง 2 ด้าน มาตรฐานกำหนดให้ใช้ ตัวอักษรสีส้ม (บางครั้งอาจเห็นเป็นสีแดง) มีขนาดตั้งแต่ 1/2″ – 4″ และยาวท่อนละ 10 ฟุต หรือประมาณ 3 เมตร
ท่อ IMC ใช้เดินลอยภายนอกอาคาร ฝังในผนัง หรือพื้นคอนกรีตได้การดัดท่อชนิดนี้ใช้ hickey ที่มีขนาดเท่ากัน
3. ท่อ RSC – Rigid Steel Conduit ท่อโลหะหนา ผ่านกระบวนการชุบ Hot-Dip Galvanized สามารถใช้งานแทนท่อโลหะชนิดบาง และ ท่อโลหะชนิดหนาปานกลาง ได้ทุกประการ และให้ใช้ในสถานที่อันตรายและฝังดินได้โดยตรง ตามกำหนดใน NEC ARTICLE 346
ทำจากแผ่นเหล็กกล้าชนิดรีดร้อน รีดเย็น หรือ แผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสีทั้งผิวภายนอกและภายใน ผิวท่อเรียบทั้งภายใน และภายนอกท่อ แต่ผิวจะด้านกว่าและหนากว่าท่อ EMT และ IMC ปลายท่อทำเกลียวไว้ทั้ง 2 ด้าน มาตรฐานกำหนดให้ใช้ตัวอักษรสีดำ ระบุ ชนิดและขนาดของท่อ เรียกกันทั่วไปว่าท่อ RSC ยาวท่อนละ 10 ฟุตหรือประมาณ 3 เมตร
ท่อ RSC ใช้เดินนอกอาคาร ฝังในผนัง หรือพื้นคอนกรีตได้ การดัดท่อชนิดนี้ใช้ hickey หรือเครื่องดัดท่อ ไฮดรอลิกที่มีขนาดเท่ากัน สำหรับท่อที่มีขนาดใหญ่ อาจใช้ข้อโค้งสำเร็จรูปคล้ายกับข้อโค้งสาเร็จรูปของท่อ IMC ที่วางขายทั่วไปได้เช่น ข้อโค้ง 90 องศา
4. ท่อโลหะอ่อน – Flexible Metal Conduit ทำด้วยแผ่นเหล็กกล้าเคลือบสังกะสีทั้งผิวภายนอก และภายใน เป็นท่อที่มีความอ่อนตัว โค้งงอไปมาได้ ใช้ป้องกันสายไฟขูดขีด ควัน ฝุ่น ภายในอาคาร ตึกสูง โรงงาน มอเตอร์ ดวงโคม หรือเครื่องจักรกลที่ มีการสั่นสะเทือน
ท่อโลหะอ่อน ใช้เดินในสถานที่แห้งและเข้าถึงได้ ห้ามใช้เดินในสถานที่เปียก , ในช่องขึ้นลง , ในห้อง เก็บแบตเตอรี่ , ในสถานที่อันตราย , ฝังดินหรือฝังในคอนกรีต การจับยึดท่อชนิดนี้ต้องมีระยะห่างระหว่าง อุปกรณ์ไม่เกิน 1.50 เมตร และห่างจากกล่องต่อสาย ไม่เกิน 30 เซนติเมตร และห้ามใช้ท่อโลหะอ่อนเป็นตัวนำแทนสายดิน
5. ท่อโลหะก่อนกันน้ำ – Rain tight Flexible Metal Conduit เป็นท่อโลหะอ่อนที่มีเปลือก PVC หุ้มด้านนอกเพื่อกันความชื้น ไม่ให้เข้าไป ภายในท่อได้ สามารถฝังในผนัง หรือพื้นคอนกรีต เหมาะกับการใช้งานในบริเวณที่มีความชื้น เปียก คราบน้ำมัน รวมถึงบริเวณที่ต้องการความอ่อนตัวของท่อเพื่อป้องกันสายไฟฟ้า ชำรุด จากไอของเหลวหรือ ของแข็งหรือในที่อันตรายห้ามใช้ในบริเวณที่อุณหภูมิใช้งานของ สายไฟฟ้าสูงมากจนทำให้ท่อเสียหาย